"พริตตี้สาว" ร้องถูกอดีตแฟนหนุ่มไฮโซขายบิ๊กไบค์ทำร้ายร่างกาย
จากกรณีพริ้ตตี้สาว อายุ 29 ปี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก รวมถึงภาพที่ถูกทำร้ายร่างกายจากอดีตแฟนที่มาดักรอทำร้ายร่างายและข่มขู่ ซึ่งชายคนดังกล่าวป็นไฮโซหนุ่ม เปิดร้านขายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์อยู่ย่านลำลูกกา และเป็นหัวหน้าทีมแข่งรถยนต์หรู ล่าสุด น.ส.นิธิวริน หรือหมวย ผู้เสียหายได้เข้าขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ให้ช่วยพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของร้านบิ๊กไบค์ที่ทำร้ายร่างกาย น.ส.นิธิวริน กล่าวว่า อดีตแฟนคนนี้คอยตามมาทำร้ายร่างกายอยู่ตลอดเวลา หลังจากคบกันมา 3 ปี ก็เห็นว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน เวลามีปัญหาทะเลากันก็จะทำร้ายร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องออกไปกินข้าวนอกบ้านหรือไปหาเพื่อน บางครั้งบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อน ไม่ให้ติดต่อกับใคร แต่ที่ผ่านมาจับได้ว่าชายคนนี้ไปคบผู้หญิงคนอื่น และบางครั้งก็ถูกผู้หญิงที่ฝ่ายชายคบอยู่เข้ามาทำร้ายตัวเอง ทำให้ต้องออกมาเช่าบ้านอยู่ และพยายามขอเลิกราไปหลายครั้ง แต่ฝ่ายชายไม่ยอมเลิกด้วย โดยให้เหตุผลว่ายังรักอยู่ จนกระทั่งทนไม่ไหวและโพสต์เรื่องราวไว้ ซึ่งเป็นวันที่ไปงานวันเกิดเพื่อน แต่กลับถูกฝ่ายชายตามมาทำร้ายร่างกาย และข่ม
จากกรณีพริ้ตตี้สาว อายุ 29 ปี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก รวมถึงภาพที่ถูกทำร้ายร่างกายจากอดีตแฟนที่มาดักรอทำร้ายร่างายและข่มขู่ ซึ่งชายคนดังกล่าวป็นไฮโซหนุ่ม เปิดร้านขายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์อยู่ย่านลำลูกกา และเป็นหัวหน้าทีมแข่งรถยนต์หรู
ล่าสุด น.ส.นิธิวริน หรือหมวย ผู้เสียหายได้เข้าขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ให้ช่วยพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของร้านบิ๊กไบค์ที่ทำร้ายร่างกาย
น.ส.นิธิวริน กล่าวว่า อดีตแฟนคนนี้คอยตามมาทำร้ายร่างกายอยู่ตลอดเวลา หลังจากคบกันมา 3 ปี ก็เห็นว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน เวลามีปัญหาทะเลากันก็จะทำร้ายร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องออกไปกินข้าวนอกบ้านหรือไปหาเพื่อน บางครั้งบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อน ไม่ให้ติดต่อกับใคร
แต่ที่ผ่านมาจับได้ว่าชายคนนี้ไปคบผู้หญิงคนอื่น และบางครั้งก็ถูกผู้หญิงที่ฝ่ายชายคบอยู่เข้ามาทำร้ายตัวเอง ทำให้ต้องออกมาเช่าบ้านอยู่ และพยายามขอเลิกราไปหลายครั้ง แต่ฝ่ายชายไม่ยอมเลิกด้วย โดยให้เหตุผลว่ายังรักอยู่
จนกระทั่งทนไม่ไหวและโพสต์เรื่องราวไว้ ซึ่งเป็นวันที่ไปงานวันเกิดเพื่อน แต่กลับถูกฝ่ายชายตามมาทำร้ายร่างกาย และข่มขู่มาโดยตลอด รวมถึงเอาทรัพย์สินที่เป็นแหวน และเครื่องประดับไปด้วย
ผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุฝ่ายชายก็พยายามเข้ามาไกล่เกลี่ย แต่ตนเองไม่ยินยอมเพราะเกรงว่าจะถูกทำร้ายร่างกายอีก
ด้านนายเอกภพ ระบุว่า พฤติกรรมแบบนี้ คาดว่าผู้ชายถ้าได้ทำร้ายผู้หญิงแล้ว ก็จะไม่เลิกทำร้ายอย่างแน่นอน มีแต่จะกลับมาทำร้ายรุนแรงขึ้น โดยจะประสานไปยัง ผกก.สภ.คูคต และ ผกก.สน.โคกคราม เพื่อเข้าแจ้งความ ดำเนินคดีในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง
What's Your Reaction?
